เกี่ยวกับเรา
ความเป็นมา
ท่ามกลางการพัฒนาการศึกษาในกรุงเทพมหานครและเมืองใหญ่ของประเทศไทยที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เยาวชนซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกลจากตัวเมือง กลับไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษา เนื่องจากปัญหาความยากไร้ของครอบครัว และการขาดแคลนทรัพยากรและปัจจัยด้านการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเรียนการสอน หรือบุคลากรด้านการศึกษา
ด้วยตระหนักถึงความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาบุคลากรของประเทศ “มูลนิธิเพิ่มครูสู่ชนบท” จึงได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 โดยมีเจตนารมย์ที่จะส่งเสริมให้เยาวชนในต่างจังหวัดได้มีโอกาสได้รับการศึกษาเท่าเทียมกับนักเรียนในเมื่องใหญ่ และพัฒนาการศึกษาในชนบทให้มีคุณภาพและได้มาตรฐาน
ในปี 2546 มูลนิธิเพิ่มครูสู่ชนบท ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “มูลนิธิครูสร้างสรรค์” เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษาในโรงเรียนในชนบท โดยสนับสนุนให้ครูได้พัฒนาตนเอง และพัฒนาการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง มูลนิธิได้คิดค้นวิธีการสอนภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ และจัดอบรมเชิงปฏิบัติการพร้อมทั้งวางแผนการเรียนการสอนให้ครูสอนภาษาอังกฤษในภูมิภาคต่างๆ
ต่อมาคณะกรรมการมูลนิธิได้เล็งเห็นความหลากหลายของปัญหาในสังคม ซึ่งยังมีผู้ด้อยโอกาสในด้านอื่นอีก เช่น ผู้สูงอายุ และผู้ประสบภัยต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือเช่นกัน มูลนิธิครูสร้างสรรค์ จึงได้ปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ และเปลี่ยนชื่อเป็น “มูลนิธินวธรรม” เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2555 โดยยังคงสานต่อเจตนารมย์ด้านการส่งเสริมการศึกษาในพื้นที่ชนบท และได้เพิ่มวัตถุประสงค์ด้านการช่วยเหลือสังคมในด้านอื่นๆ รวมทั้งการส่งเสริมวัฒนธรรม คุณธรรม และศาสนาด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ประกาศให้มูลนิธินวธรรมเป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ลำดับที่ 956 ตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร โดยได้ประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่วันที่ 7 มีนาคม 2561
วัตถุประสงค์
1. ส่งเสริมและสนันสนุนการศึกษาของเยาวชน นักเรียน นักศึกษาในเรื่องอุปกรณ์การเรียน ทัศนอุปกรณ์ ตลอดจนทุนการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสการศึกษาของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา
2. เพื่อเพิ่มคุณภาพและส่งเสริมการศึกษาในชนบทให้ได้มาตรฐานเดียวกับการศีกษาในเมือง
3. ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการศึกษาเพื่อการพัฒนาอาชีพของนักเรียนนักศึกษา ซึ่งสามารถก่อเกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม
4. เพื่อช่วยเหลือ สงเคราะห์ สิ่งของที่จำเป็นแก่การดำรงชีพของผู้ยากไร้ผู้สูงอายุ
5. เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งอุบัติเหตุ อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย และภัยอื่นๆโดยทั่วไป
6. ส่งเสริมวัฒนธรรม ทำนุบำรุงศาสนา และเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรม
7. เพื่อดำเนินการเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือร่วมมือกับองค์การการกุศลอื่นๆเพื่อสาธารณประโยชน์
8. ไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด
คณะกรรมการ
- นายสุจินต์ หวั่งหลี ประธานมูลนิธิ
- นายนิพล ตั้งจีรวงษ์ รองประธานมูลนิธิ
- นายปิติพงศ์ พิศาลบุตร เลขาธิการ
- นางสาวอนุกูล ฐิติกุลรัตน์ เหรัญญิก
- นางสาวจารุวรรณ จับจำรูญ
- นางนภาภรณ์ ลัญฉน์ดี
- นางจินตนา ฉายเหมือนวงศ์