มอบทุนการศึกษาปีการศึกษา 2560-2562
ประจำปีการศึกษา 2560-2562
1. หลักการและเหตุผล
มูลนิธินวธรรม (“มูลนิธิ”) มีเจตนารมณ์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน หรือนักเรียนในต่างจังหวัด
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนหรือนักเรียนที่จบการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาที่เรียนดี มีความสามารถ มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
2.2 เพื่อเพิ่มกำลังทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพให้กับสังคม
3. ลักษณะของโครงการ
3.1 มูลนิธิจะมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน หรือนักเรียนที่เป็นศิษย์เก่าที่จบการศึกษาในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและกำลังศึกษาในสถานศึกษาที่เป็นของรัฐทั่วประเทศ
3.2 มูลนิธิให้สิทธิ์แก่สถานศึกษาและกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในการคัดเลือกและพิจารณานักเรียนผู้มีสิทธิ์ได้รับทุนการศึกษา โดยต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการมูลนิธิกำหนดในข้อ 4.
3.3 ทุนการศึกษาเป็นทุนต่อเนื่องจนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น รวมระยะเวลาไม่เกิน 3 ปีโดยมีจำนวนทุนการศึกษาที่มอบทั้งสิ้น 40 ทุน ทุนละ 8,000 บาท
4. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ขอรับทุน
4.1 เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2560
4.2 เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน หรือเป็นศิษย์เก่าที่จบการศึกษาในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและกำลังศึกษาในสถานศึกษาที่เป็นของรัฐทั่วประเทศ
4.3 มีคะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับประถมศึกษาตั้งแต่ 2.50 ขึ้นไป หรือ เทียบเท่า
4.4 มีความประพฤติดี อยู่ในระเบียบวินัย
4.5 เป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยให้หมายความว่า ครอบครัวของผู้ขอรับทุนมีรายได้สุทธิรวมกันปีละไม่เกิน 200,000 บาท โดยพิจารณาดังนี้
4.5.1 รายได้รวมของผู้ขอรับทุน (ถ้ามี) รวมกับรายได้ของผู้เป็นบิดา และหรือของมารดา ในกรณีบิดาและหรือมารดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง
4.5.2 รายได้รวมของผู้ขอรับทุน (ถ้ามี) รวมกับรายได้ของผู้เป็นผู้ปกครอง ในกรณีผู้ใช้อำนาจปกครองไม่ใช่บิดา และหรือมารดา
4.6 ในการรับรองรายได้ ตามข้อ 4.5 ให้ผู้ขอรับทุนนำหลักฐานดังต่อไปนี้มาแสดง
4.6.1 หนังสือรับรองเงินเดือนจากหน่วยงานต้นสังกัดของบิดามารดา หรือผู้ปกครอง
4.6.2 ในกรณีบิดามารดา หรือผู้ปกครองไม่มีเงินเดือน หรือรายได้ประจำ ให้ผู้ขอรับทุนจัดหาบุคคลใดบุคคลหนึ่งดังต่อไปนี้เป็นผู้รับรองรายได้
(1) ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืออาจารย์ใหญ่
(2) ผู้บริหารส่วนท้องถิ่นระดับผู้ใหญ่บ้านขึ้นไป
4.7 ไม่มีปัญหาสุขภาพที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนการศึกษา
5. การสมัครเพื่อขอรับทุน
ผู้ขอรับทุนที่ผ่านการคัดเลือกจากสถานศึกษา จะต้องดำเนินการดังนี้
5.1 กรอกใบสมัครด้วยลายมือตนเอง พร้อมแนบรูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว หน้าตรง จำนวน 1 รูป ซึ่งถ่ายไว้ไม่เกิน 1 ปี
5.2 แนบใบรายงานผลการเรียนเฉลี่ยในระดับประถมศึกษา (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6)
5.3 แนบสำเนาประจำตัวบัตรประชาชน และ สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอรับทุน (ถ้ามี)
5.4 แนบเอกสารอื่นๆ ตามที่ในใบสมัครระบุ
5.5 ให้บิดา หรือ มารดา หรือ ผู้ปกครองของผู้ขอรับทุนลงนามรับรองในใบสมัคร
5.6 ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือ อาจารย์ใหญ่ ลงนามรับรองในใบสมัคร
5.7 ให้ผู้ขอรับทุนยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบต่อสถานศึกษาของตน โดยให้สถานศึกษาและกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนเป็นผู้คัดเลือกและพิจารณาผู้มีสิทธิ์ได้รับทุนการศึกษา แล้วนำส่งข้อมูลพร้อมหลักฐานให้กับมูลนิธิตามที่อยู่ต่อไปนี้
เลขาธิการ มูลนิธินวธรรม
เลขที่ 100/55 อาคารสาธรนคร ชั้น 27
ถนนสาธรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก
กรุงเทพฯ 10500
6. เงื่อนไขและข้อผูกพันสำหรับผู้ได้รับทุน
6.1 ผู้ได้รับทุนต้องมีคะแนนผลการเรียนในแต่ละภาคการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ไม่ต่ำกว่า 2.50
6.2 มูลนิธิสงวนสิทธิในการทบทวน หรือยุติการให้ทุนการศึกษา ในกรณีที่ภาคการศึกษาหนึ่งภาคการศึกษาใดของผู้ได้รับทุน มีคะแนนผลการเรียนต่ำกว่า 2.50
6.3 ผู้ได้รับทุนการศึกษามีหน้าที่จัดส่งเอกสารหลักฐานในแต่ละภาคการศึกษาตามที่ระบุต่อไปนี้ ไปยังกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนเพื่อนำส่งให้มูลนิธินวธรรม
6.3.1 สำเนาผลการเรียนในแต่ละภาคการศึกษาตลอดระยะเวลาที่ได้รับทุน
6.3.2 ใบรับรองการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาในแต่ละภาคการศึกษาตลอดระยะเวลาที่ได้รับทุน
6.3.3 สำเนาใบเสร็จรับเงินทุกรายการที่เป็นค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวข้องกับการศึกษาที่ได้รับทุน (ถ้ามี)
7. การคัดเลือกผู้ขอรับทุน
คณะกรรมการมูลนิธิ ให้สิทธิ์กับสถานศึกษาและกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนเป็นผู้คัดเลือกและพิจารณาผู้มีสิทธิ์ได้รับทุนการศึกษา แล้วจึงนำส่งเอกสารและหลักฐานต่างๆ มาให้ยังมูลนิธิ
8. เหตุระงับสิทธิของผู้ได้รับทุน
สิทธิในการรับทุนการศึกษามีผลเป็นอันระงับ ในกรณีที่ผู้ได้รับทุน
8.1 ตาย
8.2 พ้นจากการเป็นนักเรียนในสถานศึกษานั้นๆ
8.3 ถูกลงโทษฐานความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
8.4 ขาดคุณสมบัติหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อผูกพัน